จากกรณีเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา ที่สนามฟุตบอลธรรมศาสตร์ เมนสเตเดียม ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลนัดชิงชนะเลิศ รีโว่ คัพ 2024 ซึ่งคู่ชิงชนะเลิศคือ สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด และสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด
ต่อมา เวลาประมาณ 21.30 น. ซึ่งเป็นช่วงที่เสร็จสิ้นจากการแข่งขันฟุตบอลแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ได้รับความเสียหาย จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พบว่ารถกระบะ สีขาว ทะเบียนกรุงเทพฯ ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหาย
ชาย อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว เผยว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. เวลาประมาณ 12.00 น. ได้พาลูกชายมาแข่งขันฟุตซอลที่สนามซึ่งอยู่ติดกับสนามฟุตบอลเมนสเตเดียม และได้นำรถมาจอดไว้บริเวณจุดเกิดเหตุ ไม่ได้มาเชียร์บอลรีโว่คัพแต่อย่างใด หลังจากนั้นเวลาประมาณ 21.30 น. ทราบว่ารถถูกเพลิงไหม้จนได้รับความเสียหาย
จากการรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุมีพยานหลักฐานชัดเจน พบว่าระหว่างที่กองเชียร์ฟุตบอลกำลังเดินทางกลับ ได้มีชายคนหนึ่งจุดพลุแฟลร์อยู่ริมถนนทางเดินด้านข้างสนามฟุตบอล ห่างจากรถยนต์คันดังกล่าวประมาณ 7 เมตร
ชายที่ก่อเหตุได้หันปลายพลุแฟลร์ขึ้นไปบนฟ้า แต่พลุได้มีการแตกออกและพุ่งขนานพื้นเข้าไปที่รถยนต์คันดังกล่าวจนเกิดเพลิงไหม้ และเมื่อเกิดเพลิงไหม้แล้ว ชายที่ก่อเหตุได้รีบวิ่งไปที่รถยนต์เพื่อจะดับไฟ แต่ไม่สามารถดับได้ จึงได้หลบหนีไป ขณะเกิดเหตุไม่พบว่ามีการทะเลาะกัน หรือการเล็งพลุใส่รถยนต์แต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบตัวผู้กระทำผิด เป็นชาย อายุ 32 ปี ชาว ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และต่อมาในวันที่ 18 มิ.ย. ผู้ต้องหาได้เข้ามามอบตัวที่ สภ.คลองหลวง จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนได้เดินทางมาชมฟุตบอลที่สนามเมนสเตเดียม โดยชื่นชอบและมาเชียร์ทีมบีจี ปทุม เมื่อการแข่งขันจบ ทีมบีจี ปทุม เป็นผู้ชนะ ก็ได้ออกจากสนามและมาหยิบฟลุแฟล์ที่ซ่อนไว้มาจุดขึ้นฟ้า ก่อนจะเกิดเหตุดังกล่าว
จากการรวบรวมพยานหลักฐานประกอบคำให้การของผู้ต้องหา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากความคึกคะนอง และการกระทำโดยประมาท ซึ่งเกิดขึ้นนอกสนามฟุตบอลหลังจบการแข่งขัน มิได้เกิดจากการกระทบกระทั่งระหว่างแฟนบอลแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา “กระทำการให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท และเป็นให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย หรือการกระทำโดยประมาทนั้นน่าจะเป็นอันตรายแก่ชีวิตของผู้อื่น”
จึงขอฝากเตือนกองเชียร์และผู้เข้าชมการแข่งขันฟุตบอล ขอให้เชียร์ฟุตบอลอย่างมีสติ สนุกในเกมการแข่งขัน ไม่ทำผิดกฎระเบียบข้อบังคับต่างๆในการชมฟุตบอล และการนำพลุแฟลร์มาจุดทั้งในและนอกสนามอาจเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น และอาจมีความผิดตามกฎหมายได้
ล่าสุด บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้ออกแถลงการณ์ ระบุว่า “จากกรณีเหตุจุดพลุแฟลร์ ทำให้เกิดเพลิงไหม้รถยนต์ บริเวณสนามฟุตบอลเมนสเตเดียม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต สโมสรมีมาตรการลงโทษผู้ที่ได้ก่อเหตุ โดยการห้ามผู้ก่อเหตุดังกล่าว เข้าชมการแข่งขันของสโมสรในทุกกรณี และห้ามเข้าร่วมกิจกรรมทุกชนิดที่สโมสรได้จัดขึ้น ตลอดชีวิต และสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
นอกจากนี้ สโมสรขอรณรงค์และขอความร่วมมือให้แฟนบอลทุกท่าน ปฏิบัติตามกฎระเบียบในการเข้าชมการแข่งขันตามที่กำหนดไว้ และขอสนับสนุนการสร้างวัฒนธรรมการเชียร์ฟุตบอลอย่างสร้างสรรค์ในวงการฟุตบอลไทย”