ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดแห่งหนึ่ง ใน ต.อูบมุง อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี หลังทราบว่ามีเหตุวางยาพิษในน้ำอัดลม ทำให้หญิง อายุ 54 ปี เสียชีวิต ส่วนลูกชาย อายุ 37 ปี อาการไม่รุนแรง สามีผู้เสียชีวิตสงสัยว่าจะเป็นการฆาตกรรม ตำรวจจึงนำศพไปชันสูตรที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ก่อนนำศพกลับมาทำประกอบพิธีตามศาสนา โดยมีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอุดรธานี เดินทางมาเก็บเนื้อเยื่อกระพุ้งแก้ม ก่อนทำพิธีฌาปนกิจ
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงพักหนองวัวซอ พบชาย อายุ 53 ปี สามีของผู้เสียชีวิต ซึ่งเดินทางมาให้ปากคำจนไม่ได้ไปร่วมพิธีฌาปนกิจภรรยาที่วัด เล่าเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุว่า หลังจากกินข้าวเย็น ตนก็ออกไปหาวางตาข่ายดักปลาในทุ่งนาหลังบ้าน พอกลับเข้ามาก็เห็นภรรยาน้ำลายฟูมปากและจมูก พูดไม่ได้ และชี้มือไปที่น้ำอัดลม จึงอุ้มภรรยาไปนั่งที่โซฟา เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัว แล้วอุ้มเข้าไปในบ้าน ส่วนลูกชายเดินไม่ได้เพราะขาอ่อนแรง ก่อนจะขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน แต่ก็ไม่ทัน
ตนคิดว่าเป็นการฆาตกรรม แต่ไม่รู้ว่าใคร เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีศัตรูที่ไหน ลูกและภรรยาก็เช่นกัน ที่ต้องรีบฌาปนกิจภรรยาก็เพราะว่าไม่มีเงินจัดพิธีศพหลายวัน อยากฝากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ เพราะอยากรู้ว่าเป็นใคร และทำไปทำไม อยากบอกดวงวิญญาณภรรยาว่า ถ้าชาติหน้ามีจริงหรือโชคดี ก็จะได้พบกับภรรยาอีก
ส่วนลูกชายของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนอยู่บ้านกับพ่อแม่ รวม 3 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนจะอยู่กับภรรยา แต่ 2 สัปดาห์ก่อนภรรยาตนหนีกลับบ้าน เพราะทะเลาะกันเรื่องไม่จ่ายเงินค่าไฟฟ้า จนถูกเจ้าหน้าที่มาตัดไฟ และยังไม่รู้ว่าภรรยาไปอยู่ที่ไหน
เย็นวันเกิดเหตุ หลังกินข้าวเย็นเสร็จก็นั่งเล่นอยู่หลังบ้าน พ่อออกไปหาปลา ส่วนแม่เดินมานั่งหน้าบ้าน ไม่นานแม่เดินมากวักมือเรียกตนว่าให้มาดูอะไร พอตนเดินมาแม่ก็ชี้ขวดน้ำอัดลม ซึ่งแม่เปิดดื่มแล้ว ตนจึงถามว่าใครเอามาให้ แม่บอกว่าไม่รู้ เดินออกมาก็เห็นถุงใส่ขวดน้ำอัดลมวางอยู่หน้าบ้าน แม่นึกว่าคนในบ้านซื้อมาวางไว้จึงเปิดดื่ม แม่บอกให้ตนชิมดู ตนจึงจับว่าขวดไหนเย็น แต่รู้สึกว่าเย็นเท่ากัน จึงดื่มขวดที่แม่เปิดแล้วไป 1 อึก รู้สึกฝาดลิ้น แต่ไม่มีกลิ่น
หลังดื่มน้ำอัดลมไป 1 อึก ตนก็เข้าไปนอนในห้องประมาณ 10 นาที รู้สึกร้อน เหงื่อออกเต็มตัว พอลุกขึ้นจะไปเปิดพัดลม แต่ล้มเพราะขาอ่อนแรง จึงเรียกพ่อให้มาเปิดพัดลมให้ แต่พ่อบอกว่ากำลังดูแม่ เพราะแม่น้ำลายฟูมปาก ไม่รู้สึกตัวแล้ว ตนจึงกัดฟันลุกมาอาบน้ำ และล้วงคออาเจียน ทำให้อาการดีขึ้น
จากนั้นก็เดินออกมาดูแม่ พอดีมีชาวบ้านมาหาปลา ตนจึงวานให้ไปบอกญาติที่อยู่ในหมู่บ้านเอารถมาพาแม่ไป รพ. แต่กว่ารถจะออกมา รออยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง สุดท้ายแม่ก็สิ้นใจไปต่อหน้า
ตนคิดว่าคนก่อเหตุหมายเอาชีวิตยกบ้าน ถ้าตนไม่ฝืนเดินออกมาล้วงคออาเจียน ก็อาจจะไม่มีชีวิตอยู่ ตนได้โวยวายว่าแม่เอาอะไรให้กิน จึงมีอาการหายใจไม่ออก ตนคิดไม่ออกว่าใครจะมาวางยาครอบครัวตน และคิดว่าคนทำหวังฆ่ายกครัว ถ้าคนร้ายดูอยู่ อยากให้ออกมามอบตัว มารับกรรมที่ทำไว้
ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าครอบครัวนี้ถูกวางยาพิษ มีคนเสียชีวิต 1 ราย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบขวดน้ำอัดลมสีเขียว 2 ขวด วางอยู่ริมระเบียงหน้าบ้าน 1 ขวด ถูกเปิดฝากินหมดครึ่งขวด มีกองอาเจียนของผู้เสียชีวิตซึ่งมีกลิ่นฉุนคล้ายยาฆ่าหญ้า เพราะตนเป็นเกษตรกร และชินกับกลิ่นยาฆ่าหญ้าอยู่แล้ว
ผู้เสียชีวิตเป็นแม่หม้ายลูกติด มาแต่งงานใหม่ ทั้งคู่เคยฐานะดี มีรถเกี่ยวข้าว รถไถ รถกระบะ แต่พอกิจการขาดทุน ต้องขายทรัพย์สินทั้งหมด เหลือบ้านและที่นา 9 ไร่ ทำงานรับจ้าง ผู้เสียชีวิตเป็นคนอารมณ์ดี ไม่มีศัตรูที่ไหน คาดว่าคนร้ายต้องโกรธแค้นมาก จึงหวังจะฆ่ายกครัว
ตนยังไม่ฟันธงว่าใครทำ เพราะไม่มีพยาน ผู้เสียชีวิตเคยมีประวัติลักเล็กขโมยน้อย แต่เป็นเพียงลักพืชผักสวนครัวนำมากินเท่านั้น ซึ่งชาวบ้านก็ไม่ได้ติดใจเอาความ คาดว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด คิดว่าครอบครัวนี้ไปลักสิ่งของมีค่าก็เป็นได้
ด้าน ร.ต.อ.พิเชฐ พรมสมบัติ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองวัวซอ เปิดเผยว่า เบื้องต้นสอบปากคำพยานไปแล้ว 4 ปาก ส่วนมากจะเป็นญาติและผู้ใหญ่บ้าน ส่วนร่างผู้เสียชีวิตได้นำส่งนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว อีกประมาณ 30 วัน จึงจะทราบผลตรวจสารพิษในร่างกายว่าเป็นสารพิษชนิดใด
ขณะนี้ตำรวจสืบสวนได้ออกสืบหาเบาะแสคนร้ายจากขวดน้ำอัดลมร้านชำในหมู่บ้าน และร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใกล้แล้ว และยังไม่ทราบว่าน้ำอัดลมอีกขวดที่ยังไม่ได้เปิด จะมีสารพิษเหมือนกันหรือไม่ ต้องให้พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ