คุณพ่อคนหนึ่งโพสต์เล่าเรื่องราวลงในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค ว่า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา ผมได้พาครอบครัวไปเที่ยวห้างฯ ย่านรังสิต พอเดินเสร็จกำลังจะกลับ เวลาประมาณ 11.30 น. ลูกชายอยากกินอาหารที่ร้าน… ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยทานอยู่ประจำ ผมและภรรยาก็เลือกทานเมนูเดิมๆ ที่เคยทาน ไม่มีรายการที่เป็นเนื้อปลา
ทุกอย่างมาเสิร์ฟ ผมก็จัดแจงเทลงหม้อ พอน้ำเดือดสุกได้ที่ ภรรยาผมก็ตักบะหมี่กับน้ำซุปให้ลูกชาย ลูกชายก็ตักกินไปได้ 2-3 คำ มีอาการไอรุนแรงและอาเจียน เริ่มพูดไม่มีเสียง ผมดูท่าทีแล้วไม่น่าไหวเลยบอกให้พนักงานมาคิดเงินด่วน พนักงานก็ได้ขอเบอร์โทรผมไว้ หลังจากนั้นผมได้พาลูกชายมาที่ รพ. เอกชนที่ใกล้เคียงที่สุด
พอมาถึงที่ ER หมอแจ้งว่าดีนะที่มาไว ถ้าช้ากว่านี้สัก 2-3นาที ลูกชายอาจจะหายใจเองไม่ได้แน่ เพราะว่าตอนที่มาถึงหลอดลมตีบมากกกกกก หมอและพยาบาลได้ให้ยาแบบจัดหนักจัดเต็ม พอช่วยเหลือจนพ้นขีดอันตรายแล้ว หมอแจ้งว่าน้องต้องนอนแอดมินที่ ICU และต้องพ่นยาทุก 6 ชั่วโมง
พอช่วงเย็นๆ ทางร้าน... ได้ติดต่อมาสอบถามอาการของลูกชาย ผมได้แจ้งไป และทางร้านก็ได้นำกระเช้าผลไม้และข้าวกล่อง 2 กล่อง น้ำ 2 แก้ว มาให้ ผมได้บอกกับทางร้านไปว่าลูกชายผมแพ้ปลา ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ทานได้ปกติ แต่รอบนี้คิดว่ามีอยู่ 2 รายการที่สั่งมาคือ ลูกชิ้นปู กับ หมูทรงเครื่อง ซึ่งพนักงานแจ้งมาว่ามีส่วนผสมของเนื้อปลาทั้ง 2 รายการ
อ้าว... สรุปคือ ลูกชิ้นปูไม่ใช่ปูแท้ๆ ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆ นะ ดันมีเนื้อปลาผสมอีก แต่ก็ซ็อตไปกว่านั้น ตัวหมูทรงเครื่องก็มีเนื้อปลาผสมอีก ผมเลยแนะนำกับทางร้านไปว่าควรมีโน้ตข้อความว่าเมนูไหนมีส่วนผสมของปลาและกุ้ง เพราะมีบางท่านที่แพ้ส่วนผสมนี้
ค่ารักษาหลักหมื่น ทางร้าน... น่าจะมีการช่วยเหลืออะไรที่มากกว่านี้นะครับ ถ้าลูกชายเป็นมากกว่านี้แย่แน่
ล่าสุด คุณพ่อได้เปิดเผยอาการของลูกชายกับทีมเพจโหนกระแสว่า ตอนนี้คุณหมอให้กลับมาพักดูอาการที่บ้านแล้ว วันเกิดเหตุตนก็ตกใจ ไม่คิดว่าอาหารที่สั่งจะมีปลาผสมอยู่ เพราะรู้อยู่แล้วว่าน้องแพ้ปลาทุกประเภท ก็เลยไม่ได้ให้ทาน
วันแรกที่เข้า รพ. ทางร้านได้มาเยี่ยมและมอบกระเช้า พอออกจาก รพ. ก็กลับมาพักรักษาตัว ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ของสำนักงานร้านดังกล่าวได้แจ้งมาว่า จะรับผิดชอบเยียวยาเกี่ยวกับการรักษาของน้อง