แม่คนหนึ่งโพสต์ข้อความ และภาพลูกสาวอายุ 4 ขวบ ผ่านเฟซบุ๊ก โดยในภาพจะเห็นว่าลูกหน้าบวมปูด มีร่องรอยช้ำหลายจุดบนใบหน้า โดยคุณแม่เล่าเรื่องราว โดยสรุปได้ว่า
ตอนที่คุณยายรับหลานกลับมาจากโรงเรียนตอนแรก ตาบวมเกือบจะปิด หัวโนมาก และนี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ร้องบาดเจ็บจากการไปโรงเรียน
สอบถามจากคุณครู บอกว่าไม่เห็นตอนน้องเจ็บ ครูอยู่ในห้อง น้องเล่นข้างนอก มีเพื่อนน้องวิ่งมาบอกว่าน้องเจ็บ น้องร้องไห้ไม่หยุด ไม่บอกว่าเล่นยังไงถึงเจ็บ
ตั้งแต่เปิดเทอมมา น้องเจ็บตัวมากๆ มาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกน้องบอกเพื่อนผลัก เข่าแตกมา เป็นแผลใหญ่ แผลเปิดประมาณ 5 ซม. เพิ่งจะหาย ครั้งนั้นครูก็ไม่แจ้ง และก็บอกว่าไม่เห็นเหตุการณ์
แต่ครั้งนี้ สิ่งทำให้แม่ไม่พอใจอย่างมากคือคำพูดของครู เพราะครูพูดว่า “ก็เอาน้ำแข็งประคบให้แล้วไง”
เรา: ทำไมคุณครูไม่แจ้งผู้ปกครอง จะได้พาน้องไปหาหมอ
ครู: ไม่ทันคิดค่ะ #ไม่ทันคิด พูดมาได้ยังไง
เรา:แล้วถ้าเราพาน้องรักษาไม่ทัน น้องเลือดคั่ง กะโหลกร้าว หาหมอไม่ทันทำไง?
ครู: แล้วน้องเป็นแบบนั้นหรือยัง (พูดมาได้ยังไง)
เรา: ครูพูดได้ยังไง มันชีวิตคนนะ ชีวิตลูกเราทั้งคนนะ การตัดสินใจการดูแลครูแย่มาก
ครู: ขอโทษแล้วกันค่ะ (น้ำเสียงรำคาญแม่ ไม่มีน้ำเสียงรู้สึกผิดเลย)
แล้วครูก็จบการสนทนาด้วยประโยคว่า ถ้าแม่ไม่พอใจก็เข้าไปเจอที่ โรงเรียนได้เลย
เหตุเกิดมา 6 วันแล้ว อาการน้องล่าสุด รอยช้ำยังไม่หายดี อาการข้างเคียงไม่มี
ส่วนเรื่อง โรงเรียน น้องทำเรื่องย้าย รร แล้วค่ะ ไม่ได้ไป โรงเรียนเดิมแล้ว โรงเรียนไม่มีกล้องวงจรปิด คุณครูไม่เห็น มีเพื่อนน้องที่เป็นเด็ก 3-4 ขวบ ด้วยกันที่เห็นถามไม่รู้ความเหมือนกัน
ส่วนเรื่อง โรงเรียน มีคณะครู ผอ.เข้ามาหาอยู่ค่ะ พากันมายอมรับผิดและขอโทษ เพราะบอกครูรับรู้เห็นเด็กตอนเจ็บกัน 3 คน คณะครูพูด เด็กคนนั้นก็เคยเจ็บ เด็กคนนั้นก็เคยเจ็บ เด็กคนนั้นไม่ได้สติ คนนั้นพาไปเอกซเรย์ คนนั้นพาไปทำแผล คนนั้นพาไป รพ.
ไม่รู้ว่าจะสื่ออะไร จะสื่อว่าเด็กคนอื่นก็เจ็บที่โรงเรียน แต่ไม่เห็นมีผู้ปกครองคนไหนโวย หรืออะไร ยังไงก็ไม่เข้าใจ
แม่ไม่พอใจครูประจำชั้นที่สุด เพราะมองว่า ไม่รับผิดชอบต่อการกระทำตัวเอง การตัดสินใจ แม้กระทั่งคำพูดตัวเอง โดยหลังเกิดเรื่องได้ร้องไปทางเขต ร้องกระทรวง
คุณแม่เจ้าของโพสต์เปิดเผยกับทีมเพจโหนกระแสว่า ตอนคณะครูเข้ามาหา ไม่รู้เลยว่าทาง โรงเรียนคิดอย่างไร ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจรอเวลา ให้มันยุบเองก่อนแม่จะมาเห็นหรืออย่างไร เพราะมันคงไม่ยุบอยู่แล้ว น้องหัวปูดเป็นกำปั้น ตาปิด ขนาด 6-7 วันแล้ว รอยช้ำรอยเขียวยังไม่หายดีเลย สุดท้ายตัดสินใจให้น้องย้ายโรงเรียน ตอนนี้น้องยังรอโรงเรียนทำเรื่องย้าย
แม่ยังบอกอีกว่า อยากให้โรงเรียนมีบรรทัดฐานในการดูแลเด็ก เด็กเจ็บ เด็กป่วย จะหนัก จะเบา ควรแจ้งผู้ปกครอง ให้ผู้ปกครองตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะถ้ามันเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดตามมา ชีวิตหนึ่งมันย้อนกลับมาแก้ไขไม่ทัน จะมาบอกว่า ถ้าต้องการ การดูแลดีให้เรียนเอกชน อย่าให้เป็นแบบนั้นเลยค่ะ ให้ต่างแค่วิชาการพอ การดูแลจัดการควรเท่าเทียม ครู โรงเรียนรัฐ แค่แจ้งผู้ปกครอง มันไม่ได้ยากขนาดนั้นเลย