แม่ใจสลาย เก็บอัฐิลูกสาวที่จบชีวิตตัวเอง หลังถูกช่างสักล่วงละเมิด คาใจตำรวจไม่อัปเดตความคืบหน้า ต้องใหแม่ไปคอยถามเอาเองตลอด

จากกรณีที่แม่วัย 36 ปี ร้องเพจสายไหมต้องรอด ว่าลูกสาว วัย 20 ปี ถูกช่างสักล่วงละเมิด จากนั้นลูกสาวผูกคอ จบชีวิตตัวเองที่ห้องเช่า ครอบครัวช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล แต่แพทย์ระบุว่า สมองขาดออกซิเจนนาน ทำให้สมองตาย เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ล่าสุด แม่บอกกับทีมข่าวช่อง 3 ว่า ลูกสาวได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ได้มาเก็บอัฐิลูกสาวที่วัดลาดบัวขาว เพื่อนำไปลอยอังคาร โดย แม่ของสาวผู้เสียชีวิต บอกว่า อาการล่าสุดของลูกเมื่อวันเสาร์ มีหน้าตาสดชื่น ค่าความดัน หัวใจเต้นปกติ ตนรู้สึกดีใจที่เห็นลูกดีขึ้น แต่วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พยาบาลโทรฯมาบอกให้รีบไปโรงพยาบาล เมื่อไปถึงก็เห็นลูกอาการแย่ ตนจึงหอมแก้มลูกครั้งสุดท้าย จากนั้นลูกก็สิ้นใจทันที

ตนยอมรับว่าเสียใจมาก และมีความกังวล เพราะคดีดูยังไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งวันที่น้องเสีย ทางครองครัวก็ยุ่ง แต่ปกติแล้วทางโรงพยาบาลจะแจ้งตำรวจเจ้าของคดี แต่ทางตำรวจเพิ่งจะโทรศัพท์มาเมื่อวานนี้ โทรมาแสดงความเสียใจ และบอกให้นำใบมรณบัตรไปให้ที่ โรงพัก ซึ่งตนมองว่าตำรวจต้องรู้อยู่แล้ว แต่ทำไมถึงเพิ่งโทรมา

และเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ตนเข้าไปติดตามความคืบหน้าของคดี จึงทราบว่า ช่างสักเพิ่งเข้าไปพบตำรวจเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม และให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ตำรวจปล่อยตัวไป ให้เหตุผลว่าผลตรวจร่างกายน้องยังไม่ออก รวมถึงไม่มีหมายจับ แม่บอกว่า ถ้าตนไม่เข้าไปที่สน. ก็ไม่มีทางรู้ว่าช่างสักเข้ามาพบตำรวจ เพราะตำรวจไม่ได้โทรแจ้งอะไรเลย

ติดใจตรงที่ ตำรวจไม่ชี้แจงความคืบหน้าทางคดีอะไรเลยและเมื่อน้องเสียชีวิตไปแล้วก็ยิ่งกังวลว่าเรื่องจะเงียบ ส่วนเมื่อถามรุ่นพี่ที่มารับน้อง บอกว่าตำรวจทราบทะเบียนรถแล้ว แต่ไม่ทราบชื่อของรุ่นพี่คนดังกล่าว ทำให้ยังไม่สามารถติดตามตัวได้

แม่ยังสงสัยในตัวของรุ่นพี่ ที่มารับลูกสาว เพราะวันที่ไปส่งที่บ้านก็ยังเห็นหน้าตน แต่กลับไม่พูดว่าเกิดเหตุอะไรขึ้นกับลูกสาว และมีท่าทีร้อนรนรีบออกไป มองว่าหากไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมถึงไม่เข้ามาอธิบายหรือชี้แจง ทำไมถึงหายเงียบไป

อีกทั้งก่อนวันที่ 18 กรกฎาคม มีเบอร์แปลกโทรมาหา ถามถึงอาการน้อง ตนไม่ได้ตอบอะไร เพราะปลายสายไม่ได้แสดงว่าเป็นใคร จนทราบมาทีหลังว่าเป็นแม่ของช่างสัก ตนไม่รู้ว่าแม่ช่างสักโทรมามีจุดประสงค์อะไร แต่ตนก็ไม่คุย ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ขณะที่บรรยากาศหน้าอะพาร์ตเมนต์ ที่เป็นที่พักของช่างสัก ทีมข่าวได้สอบถามชาวบ้านใกล้เคียง บอกว่า ช่างสักไม่เข้ามาที่พักตั้งแต่วันก่อเกิดเหตุ ส่วนตัวทราบข่าวว่าน้องได้เสียชีวิตแล้ว และได้แสดงความไว้อาลัยกับครอบครัวแล้ว