จากกรณี ด.ต. อายุ 45 ปี สังกัด สภ. ใน จ.ขอนแก่น ใช้อาวุธปืนกล็อก 9 มม. ยิงภรรยาตัวเอง อายุ 42 ปี ภายในห้องนอน กระสุนเข้าที่ไหปลาร้าด้านซ้าย 1 แผล, ด้านขวา 1 แผล, เหนือกลางอก 1 แผล และแขนซ้าย 2 แผล กระดูกหักผิดรูป ก่อน ด.ต. จะยิงตัวเอง กระสุนถากศีรษะกลางหน้าผาก ยาวประมาณ 3 ซม. ก่อนที่ชาวบ้านจะช่วยกันนำส่ง รพ. โดยอาการยังสาหัสทั้งคู่ เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพี่สาวของผู้ก่อเหตุ ได้พบกับ หญิง อายุ 67 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ลูกชายตนเป็นคนหึงหวงภรรยาอย่างมาก แต่ก็ไม่คิดว่าลูกชายจะกล้าลงมือก่อเหตุยิงภรรยาตัวเองแบบนี้
มีเมื่อเช้าที่พูดกับแม่ออกมาว่า “กูจะฆ่าเมียทิ้งก็ได้นะ” แม่เลยบอกว่าให้มายิงกูก่อน ค่อยไปยิง… (ชื่อลูกสะใภ้) ลูกชายยังตอบโต้แม่ว่ามันก็ไม่แน่หรอกถ้าอยู่บ้าน แม่ยังคิดอยู่ว่าจะยิงแม้กระทั่งแม่ จากนั้นลูกชายจะพาไปฟอกไตที่ รพ. แล้วก็กลับบ้านไปก่อเหตุ ทั้งทำร้ายร่างกาย ทั้งยิง เพราะหลานเล่าให้ฟังว่าพ่อตีแม่ แล้วก็ยิงแม่
ส่วนลูกสะใภ้คนนี้ ซึ่งเป็นภรรยาคนที่ 2 ของลูกชาย ก็พูดตอบโต้ลูกชายปากพล่อยว่าตัวเองมีผัว 2 คน จนทะเลาะกันเสียงดังเมื่อคืน และมีการลงไม้ลงมือกัน ได้ยินเสียงลูกสะใภ้ร้องไห้อยู่ในห้อง ซึ่งแม่นอนอยู่ด้านนอก
ลูกสะใภ้คนนี้แสนดี ชาวบ้านในหมู่บ้านก็ชื่นชม ยอมออกจากการรับราชการครูมาคอยช่วยเหลือตนที่ป่วยเบาหวานต้องตัดขา ไม่เคยห่าง มีแค่ออกไปซื้อของแล้วก็กลับ ไม่เคยไปเที่ยวเล่นที่ไหนกับใครเลย พอพูดกับลูกชายว่ามีผัว 2 คน ก็ทำให้ลูกชายโมโหอย่างมาก สร้างความเจ็บใจให้ลูกชาย จึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
ก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องทะเลาะกันมาโดยตลอด ทะเลาะอยู่เรื่องเดียวคือหึงหวง เมื่อเช้าที่ผ่านมาแม่ก็ยังบอกลูกชายว่า ผิดกันบ่อยๆ ก็ให้อายบ้านอายเมืองอายแม่หน่อย ซึ่งตอนที่สามีตนยังไม่เสียชีวิต ลูกชายคนนี้จะกลัวพ่อมาก ไม่เคยมีปากเสียงทะเลาะกับภรรยาเลย แต่พอสามีตนเสียชีวิตไปได้ประมาณ 7 เดือน ลูกชายก็ทะเลาะหึงหวงภรรยาเรื่อยมา ไม่เกรงกลัวใครเลย และยังหาว่าแม่เข้าข้างแต่ลูกสะใภ้ ไม่เข้าข้างตัวเอง
ส่วนเรื่องยาเสพติดแม่ก็ไม่ทราบว่ามีหรือไม่ ตอนที่พ่อยังไม่ตายก็มีแต่คนชื่นชมลูกสะใภ้ว่าเป็นคนดี ไม่คาดคิดว่าจะถูกกระทำแบบนี้ ตอนนี้หมอยังไม่อนุญาตให้เยี่ยมลูกสะใภ้ ส่วนลูกชายแม่ก็คิดว่าทำไมไม่ตายไปเลย