จักรยานยนต์ฉุนกระบะบีบแตรใส่ แถมตะโกนด่า วนรถไปเคลียร์ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอม ต่อยกันนัว ล้มหัวแตก

สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีอุบัติเหตุรถกระบะเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ เหตุเกิดบนถนนประชาอุทิศ ก่อนถึงวัดศรีคุณเมือง (วัดบ้านเหล่า) เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยตำรวจสายตรวจ แต่เมื่อไปถึงกลับพบว่าอาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี กำลังช่วยกันปฐมพยาบาลชาย อายุ 47 ปี ชาว อ.เมือง จ.อุดรธานี คนขี่จักรยานยนต์ มีแผลแตกที่กลางหน้าผาก  ปากแตก เลือดไหลเต็มใบหน้า ส่วนคู่กรณี คือ ชาย อายุ 35 ปี ชาว อ.เมือง จ.เพชรบุรี คนขับรถยนต์กระบะ ยืนอยู่ในที่เกิดเหตุ

จากการสอบสวนทราบว่า คนขับกระบะพร้อมภรรยา ขับรถมุ่งหน้าไปทางสี่แยกถนนโพนพิสัย ส่วนคนขี่รถจักรยานยนต์ มุ่งไปทางสวนสาธารณะหนองสิม ทั้งคู่ขับสวนกันที่หน้าวัดศรีคุณเมือง จนเกือบจะเฉี่ยวชนกัน คนขับกระบะจึงบีบแตรใส่ และตะโกนด่า 

คนขี่จักรยานยนต์จึงขี่รถวนกลับมาเพื่อเคลียร์ปัญหา และได้จอดรถทะเลาะวิวาทกันที่หน้าร้านอาหารอินเดีย ดวลหมัดใส่กัน จนประตูร้านอาหารพังเสียหาย โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดของคลินิกเสริมความงามฝั่งตรงข้าม บันทึกภาพเอาไว้ได้

ในภาพวงจรปิดจะเห็นรถกระบะขับมาตามทาง เมื่อเห็นรถจักรยานยนต์ขี่ตามหลังมาได้หยุดชะลอรถ ขณะที่รถจักรยานยนต์ก็ขี่แซงขวาขึ้นมาแล้วจอด รถกระบะจึงขับตามหลังมา และจอดรถลงมาโต้เถียงกัน ก่อนที่คนขับกระบะจะกระโดดถีบคนขี่จักรยานยนต์ และชกต่อยกันไปมา จนไปล้มใส่ประตูร้านอาหารอินเดียที่ปิดอยู่จนพังเสียหาย เมื่อทั้งคู่แยกกัน คนขี่จักรยานยนต์ได้พยายามขี่รถหนี แต่คนขับกระบะได้รั้งท้ายรถเอาไว้ จนรถจักรยานยนต์ล้ม ก่อนจะไปนั่งรอเจ้าหน้าที่อยู่หน้าอาคารที่อยู่ใกล้กัน      

คนขี่จักรยานยนต์ กล่าวว่า ตนก็ขี่อยู่ในเส้น เขาก็ขับอยู่ในเส้น แต่เขาก็บีบแตรใส่ และร้องตะโกนด่าตน ทำให้ตนตกใจและโมโห จึงขี่รถวนกลับมาขอเคลียร์ปัญหาว่า เขาด่าตนทำไม เมื่อจอดรถได้เขาก็เข้ามาทำร้ายตนก่อน จนตนหัวแตก และอาจจะแตกตอนล้ม หรือโดนหน้าแข้งเขาก็ได้

ด้านคนขับกระบะ เล่าว่า เมื่อขับมาถึงหน้าวัดที่เป็นทางโค้ง คู่กรณีเขาเข้าโค้งมาจนเกือบจะชนรถของตน ตนจึงชะลอและหักหลบ ด้วยความโมโห เพราะว่าเกือบจะเกิดอุบัติเหตุ ตนจึงบีบแตร และร้องตะโกนด่าเขาไป จากนั้นตนก็ขับมาตามทาง เขาก็ยังเลี้ยวรถวนกลับมาหาเรื่องตนอีก เขามีท่าทียึกยักจะต่อยตนก่อน ตนโมโห จึงต้องต่อสู้กันเพื่อป้องกันตัวเอง ตนต่อยเขาไปหลายครั้ง แต่ก็โดนต่อยกลับมาหลายครั้งเช่นกัน

เบื้องต้นคู่กรณีทั้ง 2 ได้เดินทางไปลงบันทึกแจ้งความไว้กับ พ.ต.ท.กุศล สิทธิขันแก้ว สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี โดยมีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ทั้ง 2 คน แต่มีผลเป็นศูนย์ทั้งคู่ จากนั้นได้ให้ทั้ง 2 คน ไปตรวจร่างกายและหาสารแสพติด ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป