ความคืบหน้ากรณีชาวเวียดนาม 6 คน เสียชีวิต ภายในโรงแรมหรูย่านราชประสงค์ จากการถูกวางยาพิษในเครื่องดื่ม
ล่าสุด พลตำรวจโทไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เปิดเผยถึงวัตถุพยานที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบว่า จากการตรวจสอบวัตถุพยานในห้องที่เกิดเหตุ ขณะนี้ยังมีแค่กาน้ำชา / ซองชา / และถ้วยกาแฟ ทั้ง 6 ถ้วย ที่พบสารไซยาไนด์ ส่วนวัตถุพยานที่ตรวจเก็บได้จากสัมภาระของผู้เสียชีวิต รวมไปถึงยารักษาโรคทั่วไป ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีสารไซยาไนด์
ทั้งนี้ จะต้องทำการประสานทางตำรวจนครบาลเพิ่มเติมก่อน เนื่องจากสัมภาระของผู้เสียชีวิตที่เหลือทั้งหมด ตำรวจนครบาลเก็บไว้เป็นหลักฐานและบางกระเป๋ามีการล็อกยังไม่ได้เปิด เนื่องจากต้องรอทางญาติของผู้เสียชีวิตและสถานทูตมาเปิดพร้อมกัน จึงต้องทำการประสานเพิ่มเติมว่ายังมีวัตถุพยานใดที่ต้องให้พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเพื่มเติมอีกหรือไม่
ส่วนกรณีการตรวจสอบลายนิ้วมือและดีเอ็นเอจากวัตถุพยาน ขณะนี้ยังรอรายงานผลอยู่ เพราะเป็นการตรวจโดยละเอียด รวมถึงต้องรอผลดีเอ็นเอจากศพที่ทางนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ เป็นผู้ตรวจ ส่งมาเพื่อนำมาเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอของวัตถุพยานด้วย จึงจะยืนยันได้ว่า วัตถุพยานชิ้นไหนตรงกับดีเอ็นเอของใครบ้าง โดยเฉพาะวัตถุพยานที่พบสารไซยาไนด์ ทั้งกาน้ำชา / แก้วกาแฟ / กระป๋องชา / และซองชา
ส่วนกรณีที่มีประเด็นเรื่อง ยางูหมายเลข 7 ที่พบเบาะแสจากคำให้การของไกด์ชาวเวียดนามนั้น จากวัตถุพยานที่พิสูจน์หลักฐานมีในขณะนี้ ยังไม่มียางูดังกล่าวส่งมาให้ทางพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบ
ขณะที่มีรายงานจากชุดสอบสวนว่า ยางูที่มีการสั่งซื้อผ่านไกด์และชายที่ชื่อไทเกอร์นั้น จากการสอบสวนพบว่า ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้ แต่ เนื่องจากพฤติกรรมในการสั่งซื้อยาดังกล่าว มีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกับผู้เสียชีวิตหมายเลข 2 จึงต้องสืบสวนให้สิ้นสงสัย แต่ไม่พบว่ามีความเชื่อมโยง
ส่วนการสอบปากคำสามีชาวเวียดนามของผู้เสียชีวิตหมายเลข 2 ที่เป็นนักธุรกิจในประเทศญี่ปุ่น โดยได้เดินทางมาพบตำรวจเมื่อวานนี้ มีรายงานว่า เจ้าตัวให้การว่า ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับภรรยาเลย เนื่องจากช่วงเกิดเหตุ ตนเองเดินทางไปทำธุรกิจอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ไม่ได้รู้ความเคลื่อนไหวของภรรยา และก็ไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องการลงทุนที่มีข้อมูลว่าภรรยาเป็นนายหน้าไปชักชวนกลุ่มผู้เสียชีวิตมาลงทุน
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ชุดทำคดียังต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะลายนิ้วมือแฝงที่อยู่บนกาน้ำชา และถ้วยกาแฟ ที่พบสารไซยาไนด์ รวมถึงผลการตรวจสอบอื่นๆ จึงจะสามารถได้ความชัดเจนว่า ใครเป็นผู้ก่อเหตุวางยาในครั้งนี้