จากกรณีตำรวจสืบ สน.ดอนเมือง และสืบสวนนครบาล นำหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านของเอก สายเต๊าะ ย่านดอนเมือง หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในหมู่บ้านว่า นายเอกมีพฤติกรรมสร้างความเดือดร้อนรำคาญก่อกวนคนในหมู่บ้าน จอดรถยนต์กีดขวางทางเข้าออกหมู่บ้าน ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ด่ากราดในกลุ่มไลน์หมู่บ้าน จนเพื่อนบ้านบางคนต้องประกาศขายบ้านด่วน เพราะทนกับพฤติกรรมของนายเอกไม่ไหว
เจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในบ้านพบอาวุธปืนยาว บีบีกัน ซึ่งนายเอก อ้างว่าเป็นปืนที่ไม่ได้ใช้แล้ว และใช้งานไม่ได้ นอกจากนี้ยังเจอมีดยาวหัวตัดอยู่ในบ้านด้วย ตำรวจจึงนำตัวนายเอกขึ้นรถไป สน.ดอนเมือง พูดคุยเพื่อทำข้อตกลงไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนรำคาญ ให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านอีก โดยระหว่างอยู่ที่ สน.ดอนเมืองนายได้เปลี่ยนชุดถึง 3 ชุด และได้ออกมาเข้าห้องน้ำได้พบกับนักข่าวโดยมีการปิดหน้าปิดตา
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเอกมาที่ห้องปฏิบัติการงานสอบสวนเพื่อเตรียมแจ้งข้อกล่าวหา ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าสำนึกผิดไหม? นายเอกถามกลับว่า “ผิดเรื่องอะไร” เมื่อถามว่า “ทำไมไม่เลิกห้าวสักที นายเอกก็ถามกลับว่า “แล้วพี่เป็นใคร” ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่าเป็นนักข่าว
จากนั้นผู้ข่าวก็ถามว่า ยอมรับที่ตำรวจบอกมาไหม ในเรื่องของการมีปากเสียงกับชาวบ้าน โดยนายเอก บอกว่า “ผมไม่เคยมีปากเสียงกับชาวบ้าน ไม่มีแล้วเลิกแล้ว” เมื่อถามว่าสัญญากับประชาชนไหมว่าจะเลิกพฤติกรรมแบบนี้ นายเอกก็ถามกลับว่า “ประชาชนคนไหน ผมก็ประชาชน” เมื่อถามว่าเอามีดไปฟันเขาทำไม นายเอกตอบว่า “ผมไม่ตอบจะไปตอบในรายการ ได้เงิน”