จากประเด็นที่ถูกคนพูดถึงอย่างมากในโซเชียล หลัง โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงเรื่องที่ยังไม่คิดแต่งงาน มีลูก กับแฟนสาวนางเอก ณิชา ณัฏฐณิชา ถ้าหากประเทศยังมีฝุ่น pm2.5 อยู่ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากโซเชียลมองว่าจะได้แต่งตอนไหน เพราะปัญหาฝุ่นมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเหมือนว่าไม่ให้เกียรติฝ่ายหญิง
ล่าสุดวันที่ 28 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ โตโน่ เปิดใจถึงประเด็นดังกล่าวอีกครั้ง โดยเจ้าตัวบอกว่า มองเป็นเรื่องเล็ก ไม่ซีเรียสเพราะตนเจอหนักกว่านี้มาเยอะแล้ว ส่วนความรักกับ ณิชา แฮปปี้ดีทุกอย่าง ขอโฟกัสไปที่เรื่องทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมดีกว่า
“จริงๆ แล้วผมว่าเป็นเรื่องเล็กมากเลย ที่ทุกคนจะพิมพ์ถึงเรา จะพูดถึงเราหรือพี่ๆ นักข่าวที่ลงหัวข้อข่าว ผมก็เข้าใจว่าลงให้คนสนใจ แต่คนจะเข้าไปดูทั้งหมดมั้ยก็เป็นอีกเรื่องนึง
แต่ผมเองคิดว่าเราผ่านมาทุกเรื่องแล้วครับ เรื่องนี้ก็เลยเป็นเรื่องเล็กมาก ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยครับ มีความสุขดี ผมกับณิชาก็แฮปปี้กับทุกๆ อย่าง
แต่สำหรับคนที่จะไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร ผมว่าเรื่องของผมไม่ว่าใครจะพูดถึงผมแบบไหนเป็นเรื่องเล็กมาก ลองสนใจเรื่องส่วนรวมดีกว่าครับ ว่ามันมี PM2.5 อยู่จริงมั้ย (ยิ้ม) เราจะช่วยกันแก้ได้มั้ย หรือเราจะยอมแพ้จริงๆ เราคิดแล้วว่ามันไม่มีทางแก้ได้ เราไม่ต้องอะไรกันทั้งนั้น แล้วปล่อยให้โลกมันแย่แบบนี้ ผมว่าอันนั้นสำคัญกว่า
รวมถึงทีมของเราที่กำลังทำการบ้าน ทำเรื่องของการวิจัยอะไรหลายๆ อย่างที่ตอนนี้เรายังพูดได้ไม่หมด แต่ถ้าเกิดว่ามันสำเร็จ คนไทยทุกคนจะได้มีประโยชน์ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยเป็นมะเร็ง ผมให้ความสำคัญกับตรงนั้นมากๆ เลย ก็เลยคิดว่าเรื่องส่วนตัวที่คนจะพูดถึงเรา จะเข้าใจเราแบบไหน ผมว่าเป็นเรื่องเล็กครับ เราเจอมาเยอะ“
เมื่อถามว่า เหนื่อยไหมกับเรื่องแบบนี้ โตโน่ตอบว่า
“ซ้อมมวยเหนื่อยกว่า (ยิ้ม) ตอนแรกก็ไม่ได้ทราบด้วยว่ามีดราม่าเพราะวันนั้นเราก็สัมภาษณ์ไปด้วยความสุข หัวเราะหยอกล้อกัน แต่ณิชาโทรมา บอกว่าเขาจะต้องเจอพี่ๆ นักข่าวนะ และมันมีดราม่าอยู่นะ พี่โน่รู้เรื่องมั้ย ก็ถึงได้เห็นหัวข้อข่าว ก็เลยเข้าใจได้
จริงๆ แล้วอะไรที่เป็นความสุขของณิชา ก็คือความสุขของเรา แต่หัวข้อข่าวเข้าใจได้ และผมก็ไม่ได้โกรธด้วย ผมรักพี่ๆ นักข่าว ผมเข้าใจว่าถ้าเราลงข่าวสิ่งแวดล้อมอย่างเดียว ใครจะเข้ามาอ่าน แต่ตัวผมเองเจอมาเยอะแล้วครับ ผมเลยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเล็ก ผมว่าเราโฟกัสกับสิ่งที่เราทำอยู่ โฟกัสกับส่วนรวมครับ
เพราะข่าวหรือการสัมภาษณ์แต่ละครั้ง ถ้าเขาได้อ่านหรือได้ฟัง ประเทศเราหรือส่วนรวมเราจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง ผมว่าเราให้ความสำคัญกับตรงนั้นดีกว่า แต่เรื่องคนจะเข้าใจเราไปในมุมไหน จะรักหรือไม่รักเราหรือจะตัดสินเราจากอะไรไม่เป็นไรเลยครับ
อย่างตอนว่ายน้ำกว่าจะสำเร็จก็เจอหนัก ผมถึงบอกว่าให้เราโฟกัสกับสิ่งที่ส่วนรวมจะได้อะไร ไม่ได้โฟกัสว่าทำแล้วเราได้อะไร ผมสัมภาษณ์ไปผมก็ไม่ได้อะไร ผมแค่อยากทำเท่าที่เราจะพอทำไหว วันนึงมันหมดเวลาของผมแน่ๆ ครับ มีน้องๆ นักแสดง พระเอก นักร้องขึ้นมาในทุกๆ วัน วันนึงผมต้องแก่ วันนึงผมต้องตกลงไป แต่ในช่วงที่เรายังมีแรง เราทำอะไรเพื่อแผ่นดินของเราบ้าง เราทำอะไรเพื่อแฟนๆ ที่เรารักเขา
นครพนมเมื่อไม่กี่วันก่อนในวันเดียวช่วยชีวิตได้ 3 คน รอดชีวิตจากสิ่งที่ทุกคนช่วยกันทำ เรื่องพวกนี้อาจจะไม่น่าเป็นข่าวดังได้ แต่สำหรับผมแล้วมีคุณค่าทางจิตใจผม ผมเลยคิดว่าเราช่วยกันทำให้โลกมันน่าอยู่ดีกว่า ส่วนที่มันเป็นดราม่าหรืออะไร ผมคิดว่าถ้าเราจะอยู่ตรงนี้และคนที่เราทำเพื่อพวกเขาอยู่สำคัญพอ เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเล็กครับ” โตโน่กล่าว
ที่มา : ข่าวสด