ที่วัดช่อแลพระงาม ต.ช่อแล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของ ว่าที่ร้อยโท อายุ 48 ปี คนขับรถรับจ้างผ่านแอป ที่ถูก ผู้ต้องหา อายุ 26 ปี ฆ่าชิงรถนำไปก่อเหตุชิงทอง
ทางพ่อและแม่ของ ผู้ต้องหา เดินทางเข้ากราบขอขมาศพ และกราบขอขมาทางครอบครัวของว่าที่ร้อยโท โดยเมื่อถึงวัดได้ตรงเข้าไปพบ พี่สาวของว่าที่ร้อยโท เพื่อขอขมารวมทั้งพูดคุยขอโทษกับภรรยาและลูกชายของผู้ตายด้วย
ส่วนแม่ของว่าที่ร้อยโทนั้น ไม่พร้อมที่จะพบเพื่อพูดคุยและรับคำขอขมาใด ๆ จากทางฝ่ายแม่ของผู้ต้องหา เนื่องจากสภาพจิตใจยังย่ำแย่ แล้วยังไม่สามารถทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
ขณะที่พี่สาวของผู้เสียชีวิตยอมรับคำขอขมาและให้ไปขอขมาศพน้องชาย ซึ่งพ่อแม่ของผู้ต้องหา ได้ขอบคุณพี่สาวและครอบครัว ที่เปิดโอกาสให้กราบขอขมาศพ พร้อมกันนี้พ่อแม่ของผู้ต้องหา ยังได้พูดคุยกับภรรยาและลูกชายของผู้เสียชีวิต โดยขอโทษและรับปากว่าจะช่วยเหลือดูแลลูกชายของผู้ตายในทุกเรื่อง อย่างดีที่สุด
จากนั้นพ่อและแม่ของผู้ต้องหา ได้เข้าไปกราบศพของว่าที่ร้อยโท พร้อมนำคำขอขมาจากผู้ต้องหากราบขอขมาศพ โดยบอกว่าลูกชายฝากบอกว่าเสียใจอย่างมากกับสิ่งที่ได้กระทำไป พร้อมรับสารภาพผิดทุกอย่าง โดยไม่มีคำแก้ตัวใด ๆ และยินยอมชดใช้ความผิดที่ก่อทุกอย่างด้วยดี โดยขออโหสิกรรม และให้อภัยเวรแก่กัน รวมทั้งไปสู่สุขคติ
ทั้งนี้ พี่สาวผู้ตาย เปิดเผยหลังจากที่พ่อแม่ของผู้ก่อเหตุได้เข้ามากราบขอขมาว่า อัดอั้นตันใจอย่างมาก แต่เข้าใจหัวอกของคนเป็นพ่อแม่และความรักที่มีต่อลูกเป็นอย่างดี เพราะตัวเองเป็นแม่คนเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เรื่องการอโหสิกรรมนั้น ยอมรับว่ายังทำใจได้ยาก เพราะแม้จะเข้าใจดีว่าสิ่งที่ลูกได้กระทำเป็นคนละส่วนกันกับพ่อแม่ แต่ตัวเองยังเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง จึงให้ไปขอขมากับศพของน้องชายดีกว่า ซึ่งไม่ได้ปิดกั้นที่พ่อแม่ของผู้ก่อเหตุจะเข้ามากราบขอขมา
ได้เปิดโอกาสให้ได้พบพูดคุยกับลูกชายของน้องชายด้วย แต่ในส่วนของแม่ตัวเองนั้น ยังทำใจไม่ได้และไม่พร้อมที่จะคุยด้วย ซึ่งตัวเองถือว่าได้ทำหน้าที่คนกลางอย่างดีที่สุดแล้ว ส่วนเรื่องของคดีความนั้น ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย
ขณะที่ พ่อของผู้ต้องหา กล่าวว่า ขอบคุณพี่สาวและครอบครัวของว่าที่ร้อยโท ที่ให้โอกาสได้เข้ากราบขอขมาและขออโหสิกรรมในครั้งนี้ ซึ่งทางลูกชายได้ฝากให้มากราบศพ พร้อมทั้งขอขมาและขออโหสิกรรมด้วย
พ่อของผู้ต้องหา กล่าวต่อว่า รวมทั้งย้ำให้ช่วยเหลือดูแลลูกชายของผู้ตายด้วย ซึ่งตัวเองตั้งใจจะมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ติดธุระจำเป็นในเรื่องของคดีความของลูกชาย
ส่วนที่ สภ.แม่ปิง พนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนได้ทำการตรวจค้นภายในรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส ซึ่งเป็นรถของผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์ เพื่อตามหาทองที่ยังคงหายไปอีก 4 เส้น น้ำหนัก 8 บาท เจ้าหน้าที่ตรวจค้นภายในรถรวมทั้งบริเวณฝาปิดเปิดถังน้ำมันอย่างละเอียด รวมทั้งกระโปรงหลังและภายในรถไม่พบทองแต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนแม่ปิง เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำนายผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การไม่ตรงกับข้อเท็จจริง บางครั้งก็บอกว่า ได้นำทองทิ้งไปแล้วข้างทางเพราะขายไม่ได้ บางครั้งก็บอกว่าอาจจะทำตกระหว่างหลบหนีไปเอารถที่จอดไว้อ่างเก็บน้ำกาแล
ซึ่งคำให้การของนายผู้ต้องหานั้น ให้การไปเรื่อยเปื่อย ชุดสืบสวนได้ไปค้นที่บ้านของนายผู้ต้องหาก็พบทองซุกซ่อนในลังริมน้ำจำนวน 5 เส้น ยังคงขาดอีก 4 เส้น น้ำหนัก 8 บาท ก็ต้องค้นหาต่อไปอาจจะต้องไปตรวจสอบบริเวณจุดพบศพเส้นทางเดินหลบหนีของผู้ต้องหา ทางเดินลัดเลาะธรรมชาติบนดอยไปยังจุดจอดรถอ่างเก็บน้ำกาแลของผู้ต้องหาอีกครั้งหนึ่ง
จากการไปตรวจค้นบ้านของนายผู้ต้องหาก่อนหน้านั้น บริเวณห้องนอนพบว่าห้องนอนของนายผู้ต้องหาจัดเป็นระเบียบอย่างมาก เป็นหมวดหมู่ของเครื่องใช้ต่าง ๆ อย่างเป็นระเบียบสะอาด บ้านเป็นบ้านชั้นเดียว แต่ก็ไม่พบทองแต่อย่างใด ไปพบซุกซ่อนอยู่ในลังริมน้ำบริเวณหลังคาบ้านจำนวนหนึ่งเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา