ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 21.45 น. วานนี้ (20 ก.ค.67) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจับเด็กเป็นตัวประกัน ก่อนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะระงับเหตุจนได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส 2 นาย ก่อนที่ตำรวจ 1 นายจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา เหตุเกิดภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ปลูกติดเรียงกันหลายคูหา ภายในอาคาร พบชาย อายุ 49 ปี เจ้าของธุรกิจโรงพิมพ์ มีอาการคลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนจับลูกแท้ ๆ เป็นตัวประกัน ต่อมาทาง พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ จันยะรมณ์ รอง ผกก.ป.สน.ท่าข้าม พร้อมด้วย ด.ต.ไชยวัฒน์ อัตโสภณวัฒนา ผบ.หมู่ ป.สน.ท่าข้าม ได้เข้าระงับเหตุจนถูกผู้ก่อเหตุยิงสวนออกมา 2 นัด กระสุนถูก พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงเร่งช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน ด.ต.ไชยวัฒน์ ได้รับบาดเจ็บแค่ถูกสะเก็ดกระสุนปืน
สอบสวน เจ้าหน้าที่ อปพร.ฝ่ายกู้ชีพกู้ภัยให้การว่า หลังได้รับแจ้งเหตุก็เข้ามาตรวจสอบตามพิกัด พบตำรวจนอนหมดสติจมกองเลือดอยู่หน้าบ้านถูกยิงที่หน้าอกและมือซ้าย รวม 3 นัด ขณะที่ภายในบ้านพบ ลูกสาวของผู้ก่อเหตุถูกพ่อใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดตบเข้าไปที่บริเวณใบหน้า เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือสมาชิกในครอบครัวจำนวน 4 คน ออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว
โดยลูกสาวให้ข้อมูลว่าพ่อมีอาวุธปืนจำนวน 4 กระบอก คือ ขนาด.38, ขนาด. 9 มม., ขนาด 11 มม. และปืนลูกซอง พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่งไว้ในครอบครอง นอกจากนี้ลูกสาวผู้ก่อเหตุยังระบุอีกว่า พ่อขาดยาและไม่ได้รับการรักษามาประมาณ 1 ปี และมีอาการคลุ้มคลั่งอยู่บ่อยครั้ง
เจ้าหน้าที่ อปพร.ฝ่ายกู้ชีพกู้ภัยกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ได้รับแจ้งเหตุจากตำรวจว่า ต้องการสนับสนุนรถพยาบาลไปส่งผู้ก่อเหตุซึ่งป่วยจิตเวช แต่เมื่อมาถึงบ้านหลังดังกล่าวกลับถูกผู้ก่อเหตุรายดังกล่าว ข่มขู่ว่าจะใช้อาวุธปืนทำร้ายแต่ก็ยินยอมให้พาไปส่งโรงพยาบาล
รายงานข่าวแจ้งว่า ทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ระดมพลปิดล้อมอาคารหลังเกิดเหตุพร้อมใช้เครื่องขยายเสียงเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุยอมมอบตัว แต่กลับมีเสียงปืนดังขึ้นจากในอาคารเป็นระยะๆ ทั้งนี้ได้กันพื้นที่โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปโดยเด็ดขาด
สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียชีวิต เพิ่งออกตรวจเวรที่วัดบัวผัน เมื่อได้รับแจ้งเหตุจึงรีบเข้าระงับเหตุในทันที และจะเกษียณอายุราชการในปีหน้า กระทั่งมาถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตดังกล่าว
ต่อมา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.เดินทางออกจากที่เกิดเหตุเพื่อไปดูผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล พร้อมกับเปิดเผยกับสื่อมวลชน ว่า เวลาตีสอง ตำรวจอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นผู้ก่อเหตุ ที่อยู่บริเวณชั้นลอยของบ้านยังไม่มีท่าทีสงบ และใช้ปืนยิงสวนตำรวจเป็นระยะ แต่ตำรวจที่คุมสถานการณ์อยู่โดยรอบบ้าน ก็ไม่ยิงตอบโต้ ด้วยเกรงประชาชนละแวกข้างเคียงจะถูกลูกหลง เบื้องต้นขอประเมินสถานการณ์เป็นระยะจากยุทธวิธีเบาไปหาหนัก และปฏิบัติการอย่างรอบคอบที่สุด ส่วนการเยียวยา ครอบครัว พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ ยืนยันจะดูแลเต็มที่
ยอมรับจากข้อมูลที่มี ทราบว่า ผู้ก่อเหตุชอบสะสมปืนและเคยฝึกฝนยิงปืน โดยปืนทั้งหมด เป็นปืนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนเรื่องผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิตหรือไม่ ต้องขอตรวจสอบก่อน
จากนั้นเมื่อเวลา 03.00 น. รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด หรืออีโอดี เตรียมส่งเจ้า EOD ROBOT ไปสังเกตการณ์ตามพื้นที่บริเวณโดยรอบของบ้านหลังจุดเกิดเหตุเพื่อประเมินสถานการณ์ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการคอยกระจายกำลังตามจุดต่างๆ เพื่อกระชับพื้นที่ และเฝ้าระวังเต็มพื้นที่บริเวณโดยรอบ อีกทั้งยังใช้ธรรมะผ่านเครื่องขยายเสียงคอยเกลี้ยกล่อมให้ตัวผู้ก่อเหตุใจเย็นวางปืนลง และเดินเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ แต่ก็ยังไม่มีท่าทีที่ผู้ก่อเหตุจะสงบลงและมีการยิงปืนตอบโต้ออกมาเป็นระยะ ๆ
ต่อมาเวลา 06.10 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ยืนยันว่าพบร่างไร้วิญญาณของชายคลั่ง บริเวณชั้นลอยของบ้าน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต มีความเป็นไปได้ว่าจบชีวิตตัวเอง แต่ขอให้รอพนักงานสอบสวน และหมอชันสูตรยืนยันอีกครั้ง เพราะขณะปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจมีการใช้กระสุนในการพังประตูเข้าไปด้วยและข้างในค่อนข้างมืด
ที่มา : มติชน