ฟังแล้วอึ้ง ตายอมรับว่าเด็ก 14 ปี ที่แทงยายตัวเองเสียชีวิต เป็นลูกแท้ๆ ที่เกิดจากตนแอบมีสัมพันธ์ลับกับลูกเลี้ยงตัวเอง คิดแล้วสักวันต้องเกิดเรื่องแบบนี้

เมื่อช่วงบ่ายที่ สน.แสมดำ พนักงานสอบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ ได้นำตัวผู้ต้องหา เด็กหญิง อายุ 14 ปี ขึ้นรถฝากขัง ควบคุมตัวไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยมีแม่อยู่ใกล้ชิด ซึ่งระหว่างที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว และสาเหตุที่ลูกก่อเหตุครั้งนี้ แต่แม่ก้มหน้า ใช้เสื้อคลุมปิดบังใบหน้า ไม่ตอบคำถามใด ๆ พร้อมเดินเข้ารถเจ้าหน้าที่ตำรวจไป

ทีมข่าวได้พูดคุยกับตาของเด็ก อายุ 14 ปี ซึ่งชาวบ้านว่ากันว่า คุณตาคือพ่อแท้ๆ ของเด็กอายุ 14 ปี ทีแรกตามีท่าทีพยายามจะเดินหนีนักข่าว แต่สุดท้ายก็ยอมรับว่า ไม่เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลูกเลี้ยง (แม่ของเด็ก 14 ปี) โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว ส่วนเด็กหญิงอายุ 14 ปีก็เป็นลูกแท้ๆ ของตน

ผู้สื่อข่าวถามว่า คาดว่าเป็นสาเหตุนี้หรือไม่ที่ทำให้ยายด่าทอหลานเป็นประจำ แต่ตาบอกว่า ยายเพิ่งมาด่าเมื่อ 5 ปีหลังมานี้เอง เนื่องจากยายติดเหล้า จนเป็นแอลกอฮอลิซึม เรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัว เกิดขึ้นนานมาแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อนึกถึงก็ยังรู้สึกผิดหรือไม่ ตาพยักหน้า ก่อนจะบอกว่า ทุกวันนี้ตัวเองก็ไม่ได้คุยกับลูกเลี้ยง(แม่เด็ก 14)มานานแล้ว หลังจากนี้หากลูกเลี้ยงจะเอาลูกไป ก็ปล่อย ตนจะได้อยู่คนเดียวสบายใจ เพราะเขายังไม่พูดกับตนสักคำเลย

ตอนนี้ไม่เครียด ทุกวันนี้ก็ไม่ได้พูดคุยกับลูก แต่เลี้ยงดูลูกดีมาตลอด ทุกวันนี้ลูกทั้งสองคน ทั้งเด็ก 14 ขวบ และ 9 ขวบ ก็เรียกตัวเองว่าพ่อหมด ซึ่งเด็กอายุ 14 ปีเป็นลูกของตัวเอง ส่วนเด็กอีกคนหนึ่งเป็นลูกของพ่อคนอื่น

ตาให้ข้อมูลอ้างว่า ที่ผ่านมา 14 ปี ไม่ทราบว่าลูกจะทราบหรือไม่ว่าตัวเองเป็นตาและเป็นพ่อแท้ ๆ และไม่ทราบว่าคนอื่นหรือชาวบ้านจะบอกหรือไม่ แต่ที่ผ่านมา หากลูกเลี้ยงจะเข้ามาที่บ้านก็เข้ามาได้ ไม่มีใครทำอะไร หรือจะส่งเงินมาช่วยเลี้ยงลูกบ้างก็ย่อมได้ แต่เขาไม่มา

ส่วนยายที่เสียชีวิต เวลาเมาแล้วทะเลาะกันกับหลาน บางครั้งก็พาดพิงถึงตัวเอง พาลด่ามาถึงตนเองว่าไปมีเมียน้อย ตัวเองไม่เคยมีเพราะทำแต่งาน แล้วยังบอกพาดพิงภรรยากลับว่า ทีตัวเองไปนอนบ้านคนอื่น ไปมีอะไรกับคนอื่นยังไม่เคยพูด ไปที 3-4 วัน บางทีไปครึ่งเดือน ยังไม่เคยพูด แต่มากล่าวหาตน ยังเคยบอกภรรยาว่าหากตนเองทำจริงให้ไปเอาหลักฐานมา ซึ่งตนเองทราบเรื่องภรรยาเพราะมีคนบอกเหมือนกัน

สุดท้าย ตาพูดทิ้งท้ายว่า คิดอยู่แล้วว่าสักวันหนึ่งเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว ไม่ต้องเป็นหมอดูก็ดูรู้ เพราะตนเลี้ยงมา นิสัยใครเป็นอย่างไร ตนรู้หมด