รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกันเป็น EP.5 แล้ว สำหรับเรื่องราวของ “ดิ ไอคอน” ซึ่งในวันนี้ ได้ ดร.ธนกฤต ผู้ช่วย รมว.สธ. มาชำแหละ “หมอปลอม” และยังมีผู้ร่วมรายการอีกหลายคนที่จะมากางการทำธุรกิจของบริษัทนี้ ว่ามีความไม่ชอบมาพากลอย่างไร
โดยก่อนจะเริ่มรายการ นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายอาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ., เจ้าหน้าที่ สบส. และ อย. ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบคลินิกเวชกรรม ดิไอคอน เวลเนส (The Icon Wellness) ของบริษัทในเครือ ดิไอคอน กรุ๊ป ย่านรามอินทรา เขตบางเขน กทม. เพื่อตรวจสอบข้อมูลว่ามีการประกอบกิจการทางการแพทย์ถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่
โดยก่อนหน้านี้ ทราบว่า มีภาพของ “บอสหมอเอก” ที่เรียกตัวเองว่าเป็น “หมอ” มีภาพไปฉีดยาให้คน ในคลินิกดังกล่าว มีภาพใส่ชุดกาวน์สีขาว ห้อยสเต็ทโตสโคปเหมือนเป็นหมอ ทั้งที่ไม่ได้จบแพทย์ จบเทคนิคการแพทย์ แต่ไปทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นหมอ ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็น “หมอเถื่อน”
จากการตรวจสอบคลินิกดังกล่าว พบเป็นอาคารทาวน์โฮม ปลูกติดกัน ลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวบนเนื้อที่ 5 คูหา โดยภายในคลินิกดังกล่าวอยู่ระหว่างปิดกิจการ และไม่พบตัวบอสหมอเอกด้วย ดร.ธนกฤตจึงอยากฝากถึง “บอสหมอเอก” ที่ตอนนี้หายตัวอยู่ มาแสดงตัวต่อเจ้าพนักงานเพื่อพิสูจน์ยืนยันตัวตนว่าเป็นหมอจริงหรือไม่ เพราะในสื่อโซเชียลโดยเฉพาะกลุ่มผู้ติดตามของบริษัทฯ ต่างเข้าใจว่าเป็นหมอ
ขณะที่ คุณรัก อดีตนักบินสายการบินชื่อดัง เล่าว่า เอาเงินหลังเกษียณมาลงทุนกับดิไอคอน หมดไปหลายล้านบาท เขาบอกว่าเป็นการลงทุนตลอดชีวิต มีความน่าเชื่อถืออะไรต่างๆ บอสดาราหลายคนการันตี แล้วยังมีโปรโมชันอะไรต่างๆ มีส่วนลด ยิ่งถ้าเป็นระดับบอส ก็ยิ่งมีส่วนลดในส่วนลดไปอีก
คุณรักบอกว่า ตั้งแต่ลงทุนไปกับเขา ไม่เคยได้ขายกาแฟเลย มุ่งแต่หาคนมาเป็นดีลเลอร์ ของยังกองอยู่ที่บ้าน สั่งเบิกของไปยังไม่ได้เลย แต่ผลตอบแทนที่ได้มา ได้มาจากการหาคนมาเป็นลูกทีม ลูกข่ายเท่านั้น
ขณะที่ คุณพัช กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ชี้ให้เห็นว่า การทำธุรกิจของ ดิ ไอคอน ที่ไปจดทะเบียน การตลาดแบบตรง มันไม่สามารถที่จะให้ผลตอบแทนจากการสร้างเครือข่าย หาดีลเลอร์ มันผิดกฎหมาย ไม่ตรงกับประเภทธุรกิจที่จดทะเบียน การทำแบบที่มีอัพไลน์ ดาวน์ไลน์ มันเรียกว่า “ยูนิเลเวล” มีลำดับชั้น ลำดับขั้น มันต้องเป็นการจดทะเบียน “ขายตรง” ไม่ใช่ “การตลาดแบบตรง” ที่ต้องได้ผลตอบแทนจากการขายสินค้า
สิ่งที่จำเป็นมากๆ ในวันนี้ คืออยากให้บรรดาแม่ข่าย ออกมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ เพราะตำรวจต้องการข้อมูลอีกมาก โดยยังไม่ต้องกังวลว่าจะถูกเหมารวมว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการ ถ้าออกมาให้ข้อมูล คุณจะถูกกันไว้เป็นพยาน
นอกจากนี้ ในรายการยังเปิดคลิปเสียง ของชายคนหนึ่ง ที่เรียกตัวเองว่า “หมอ” รับผิดชอบดูแลเรื่องการเสริมความงาม ผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ แต่นั่งพูดถึงการทำธุรกิจ ว่าธุรกิจที่หมอทำอยู่นี้ ยอดขายทะลุเกิน 500 ล้านไปแล้ว และไม่ได้เป็น ธุรกิจขายตรง ธุรกิจเครือข่าย (MLM) แต่เป็นการทำการตลาดแบบออนไลน์ ทั้งยังย้ำกับคนที่ฟังว่า “ด้วยความเป็นหมอ ยิ่งต้องรักษาเกียรติยิ่งกว่าคนอื่นเลย” และยังเอ่ยชื่อ “บอสพอล” ว่ามีประสบการณ์ในธุรกิจนี้กว่า 9 ปี ยิ่งการันตีความสำเร็จ
ดร.ธนกฤตได้ฟังคลิป แล้วบอกว่า งั้นแปลว่าธุรกิจนี้ต้องมีหมอจริงอยู่ด้วยสิ เขาถึงกล้าพูดแบบนี้ กล้าอ้าง เอาความน่าเชื่อถือของอาชีพมาสนับสนุนสินค้าที่ขาย แต่ถ้าไม่หมอจริงอยู่ด้วย ก็แปลว่าเป็นการแอบอ้างหรือเปล่า
นอกจากนี้ยังมีการเปิดคลิปเสียงอีกหลายคลิปของคนที่เรียกตัวเองว่า “หมอ” คนเดิม หว่านล้อมลูกข่าย ให้มาร่วมทำธุรกิจ ขายสินค้ากับ ดิ ไอคอน บอกเล่าถึงวิธีการหาดาวน์ไลน์ คิดรายได้จากสายลูกข่าย สอนให้คำนวนรายได้มหาศาล โน้มน้าวให้มาเป็น “มนุษย์เงินล้าน”
ส่วนเรื่องราวของคลิปเสียง ของ คนที่ในคลิปที่คุยกับ “บอสพอล” ที่อ้างว่าเป็น นักการเมือง ส ซึ่งมีการโยงไปมาถึงใครบางคน ถึงขั้นที่บอสพอลต้องออกมาโพสต์แก้ว่าไม่ได้หมายถึง นักการเมือง ส และขอโทษที่พูดไปทำให้ นาย ส เสียหาย และขอให้สื่อลบคลิป ไม่อย่างนั้นจะฟ้องสื่อ ก่อนที่บอสพอลจะลบโพสต์นั้นไป
ในเรื่องนี้ ทั้ง ไผ่ ลิกค์ , ดร.ธนกฤต และ คุณพัช กฤษอนงค์ พูดตรงกันว่า คุ้นเสียงนี้ดี รู้อย่างชัดเจนว่าเป็นใคร เป็นคนที่เกิดมาจากสมาคมแชร์ลูกโซ่ สร้างชื่อเสียงจากคดีปราบแชร์ลูกโซ่ระดับชาติ เป็นคนมีความสามารถคนหนึ่ง จนกระทั่งออกไปเดินบนเส้นทางการเมือง
ขณะที่ ไผ่ ลิกค์ บอกว่า เชื่อว่าความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ เกิดจากคนๆ นี้ และมีความพยายามจะแอบอ้างความสนิทสนมกับผู้หลักผู้ใหญ่ ซึ่งผู้ใหญ่อาจจะไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ยอมรับว่าตนก็เคยมีความกระทบกระทั่งกับคนๆ นี้มาพอสมควร เคยเตือนผู้ใหญ่ไปแล้วว่า อย่าฟังคนนี้มาก เพราะเขาให้ข้อมูลเท็จอยู่ตลอด
ขณะที่ ดร.ธนกฤตก็บอกว่า ถ้าเป็นคนที่ตนคิดจริงๆ ก็ต้องบอกว่าเคยได้ยินเสียงนี้มาเป็นร้อยครั้ง ก็ต้องยอมรับว่าจำเสียงได้แน่นอน
ขณะที่ ทนายตั้ม โฟนอินเข้ามาในรายการ บอกว่า ตนได้ไปยื่นต่อพรรคพลังประชารัฐ ให้ตรวจสอบคลิปเสียง ว่าเป็นเสียงของ “นาย ส ” หรือไม่ เพราะตนให้คนใกล้ตัวนายสามารถในพรรคพลังประชารัฐหลายคน ทั้งนายวัน อยู่บำรุง ทั้งนายสิระ เจนจาคะ เขาก็ยืนยันว่าเป็นเสียงนาย ส ซึ่งทนายตั้มยืนยันว่า จะมาปฏิเสธไม่ได้ เป็นเสียงของเขาเองอยู่แล้ว ได้ยื่นให้พรรคพลังประชารัฐตรวจสอบ แล้วขับเขาออกจากพรรค และจะไปยื่นให้เขาพ้นจากตำแหน่งกรรมาธิการต่างๆ ด้วย
ขณะที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ เล่าในรายการว่า ตนก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ จากคนๆ นี้เหมือนกัน ลักษณะการกระทำคือ เขาจะเสนอตัวมาช่วยเหลืออะไรเรา ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด เขามักจะเอารูป เอาอะไรมาให้เห็นว่า เขากำลังติดต่อ คุยกับคนใหญ่คนโต จะช่วยเราเคลียร์อะไรต่างๆ ให้ แต่แลกกับการจ่ายเงินให้เขา เหตุการณ์นี้ตนเจอมาตั้งแต่ปี 2559