ผัวแทงเมียดับต่อหน้าลูก ก่อนจบชีวิตตาม จู่ๆ ฝ่ายชายฟื้น ทำเอาเจ้าหน้าที่แทบช็อก

สภ.ศรีมหาโพธิ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกแทงเสียชีวิตภายในบ้าน 2 ราย ที่บ้านทาวน์เฮาส์ชั้นเดียว ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ที่เกิดเหตุบริเวณห้องครัวพบร่างชาย อายุ 28 ปี และหญิง อายุ 27 ปี สามีภรรยา สภาพศพอยู่ในลักษณะฝ่ายชายคว่ำหน้ากอดทับอยู่ด้านบนของฝ่ายหญิง มีเลือดกองเต็มพื้นที่และรอยเท้ามีคราบเลือดลักษณะเดินไปมา พบมีดทำครัวยาวประมาณ 5 นิ้ว เปื้อนเลือดตกอยู่ 2 เล่ม

ต่อมาเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเดินทางมาถึง ได้สอบถามรายละเอียดจากญาติ ก่อนที่จะเข้าไปถ่ายรูปบริเวณที่เกิดเหตุเรียบร้อยแล้ว จึงได้เปิดผ้าคลุมร่างผู้เสียชีวิตออก และทำการถ่ายรูปและตรวจร่างผู้เสียชีวิต ปรากฏว่า ชายผู้เสียชีวิตเริ่มมีการขยับขาและใบหน้า จนทำให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานถึงกับตกใจ พอเจ้าหน้าที่ได้สติจึงทำการตรวจร่างกาย พบว่าฟื้นคืนชีพมา เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาลทันที เนื่องจากมีบาดแผลที่บริเวณใต้ราวนมด้านซ้าย 1 แผล บริเวณคอ 1 แผล

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า 2 สามีภรรยา มีลูกสาว 2 คน อายุ 10 ขวบ และอายุ 7 ขวบ ซึ่งทั้ง 2 คน ทำงานในโรงงานเดียวกัน ได้มาซื้อบ้านที่เกิดเหตุได้ประมาณ 1 ปี ต่อมาฝ่ายชายเริ่มระแวงว่าภรรยาไปพูดคุยกับเพื่อนผู้หญิงในที่ทำงานเดียวกัน เนื่องจากเห็นในโทรศัพท์ของภรรยาที่มีการพูดคุยกับเพื่อนหญิงทางไลน์ จนทำให้ทั้ง 2 คน เริ่มมีปากเสียงกัน

จนในช่วงค่ำทั้ง 2 คน น่าจะมีปากเสียงกันจากความหึงหวง ทำให้สามีใช้มีดแทงภรรยาจนเสียชีวิตต่อหน้าลูกสาวทั้ง 2 คนแล้วได้ให้ลูกสาวคนโตโทรศัพท์ไปบอกย่าว่า พ่อทำร้ายแม่ และยังได้ส่งข้อความไปบอกย่า ก่อนที่ฝ่ายชายจะใช้มีดแทงตัวเอง

แม่ของฝ่ายชาย กล่าวว่า ดีใจมากที่ลูกรู้สึกตัว แม่ก็อยู่คนละที่ ตอนแรกหลานบอกว่า พ่อทำร้ายแม่ ย่ามาดูด้วยย่าก็ทำงานอยู่ อึ้งอยู่ช่วงหนึ่ง แล้วเขาก็โทรไปบอกทางบ้านว่าลูกเสียชีวิต เมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ยังไม่ให้เข้าไปดูศพ ล่าสุดรู้แล้วว่าลูกฟื้น แม่ก็ดีใจมานิดหนึ่ง แต่ก็ยังไม่เต็มร้อย สาเหตุเขาทะเลาะกันหึงหวง เขาเคยบอกมารอบหนึ่ง แต่นึกว่าเขาดีกันแล้ว

ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เห็นชายผู้เสียชีวิตฟื้นคืนชีพ เล่าว่า ผู้ชายเขาขยับขาและลืมตา และหลับตาช้าๆ ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกำลังตรวจที่เกิดเหตุอยู่ เขาขยับตัวและขยับขา และหันหน้ามาทางซ้ายแล้วลืมตา เจ้าหน้าที่ก็ตกใจ เคสแบบนี้ยังไม่เคยมี เคสนี้เป็นเคสแรก