งง สาว 18 เดินเข้าร้านสังฆภัณฑ์ ทำตัวเหมือนอยู่บ้าน บอกชอบพญานาคจิ๋วสีเขียว

ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุหญิงสาว ก่อความวุ่นวายภายในร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ ถนนประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี สอบถามพูดจาไม่รู้เรื่อง เกรงว่าจะได้รับอันตราย แถมบอกว่าเป็นบ้านของตัวเอง หลังรับแจ้งจึงนำกำลังสายตรวจ 191 ไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบหญิง อายุ 58 ปี พนักงานร้าน นำตำรวจเดินเข้าไปตรวจสอบภายในร้าน พบหญิงสาววัยรุ่น อายุ 18 ปี บ้านอยู่แถวถนนโพนพิสัย เขตเทศบาลนครอุดรธานี กำลังเลือกดูพญานาคจิ๋ว บอกว่าจะซื้อนำไปบูชาไว้ให้เป็นโชคลาภ พอสอบถามว่ามาจากไหน หญิงคนดังกล่าวกลับบอกว่า ที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง พอถามอีกรอบ บอกว่ามากับยายรออยู่ข้างนอก แต่พอไปดูบริเวณหน้าร้านก็ไม่มีใครมาด้วย

พอสอบถามอีกครั้ง กลับบอกว่าไม่ได้มาซื้ออะไร แต่เข้ามาหาพญานาคจิ๋วสีเขียว เพราะชอบมาก อยากได้นำไปตั้งไว้ที่หน้าบ้านและก็ยังตอบเหมือนเดิม ที่นี่เป็นบ้านของตัวเอง ตำรวจจึงได้บอกให้หญิงคนดังกล่าวเอาพญานาคตัวจิ๋วสีเขียวกลับไปไว้ที่เดิม ก่อนควบคุมตัวไปที่โรงพัก เพื่อตรวจสอบว่าบ้านพักอยู่ที่ไหน

เบื้องต้นตำรวจสอบถาม หญิงคนดังกล่าวอ้างว่า เพิ่งเลิกงานกับแฟน เมื่อคืน (29 มิ.ย.67) ไปหาเพื่อนและดื่มเหล้ากัน หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าทำอะไรลงไป ปัจจุบันอยู่กับยาย แต่ส่วนใหญ่จะไปพักกับแฟน โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบโทรศัพท์ของหญิงคนดังกล่าว แล้วทำการติดการต่อญาติให้มารับตัว

เนื่องจากดูอาการแล้ว พูดจารู้เรื่องรู้บ้างไม่รู้เรื่องบ้าง คาดว่าคงดื่มเหล้าแล้วอาจมีการเสพยาเสพติดเข้าไปด้วย จึงทำให้มีอาการแบบนี้ โดยแนะนำญาติให้นำตัวไปทำการรักษาบำบัดอาการที่โรงพยาบาล พร้อมกำชับให้ดูแลอย่างใกล้ชิด

พนักงานร้านฯ เล่าว่า เช้าวันนี้ (30 มิ.ย.67) ตนมาเปิดร้าน และเห็นหญิงคนดังกล่าวเดินไปเดินมาที่หน้าร้าน เมื่อสอบถามก็บอกว่าหาเหล็กเชื่อม ไม่นานก็เดินเข้าไปในร้าน ก็นึกว่าจะเข้าไปเลือกซื้อสินค้า รู้สึกว่าเข้าไปนานเกินไป และไม่ยอมกลับออกมา จึงเดินเข้าไปดู ก็พบว่าเดินวนไปวนมาภายในร้าน ก่อนเข้าไปด้านหลังร้าน แล้วไปเปิดพัดลมนั่งอยู่ในร้าน เอารูปปั้นพญานาคมาวางเรียงกัน และบอกว่าชอบพญานาคมาก

พอถามว่าหาอะไร ก็ตอบว่าไม่มีอะไร เพียงอยากจะชาร์จแบตเตอรี่มือถือ แต่ไม่มีสายชาร์จ จากนั้นเขาก็เดินเหยียบพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่ในร้านไปมา ก็รู้ทันทีว่าหญิงสาวคนนี้คงมีอาการทางจิตและไม่ปกติเหมือนคนทั่วไป จึงโทรแจ้งตำรวจ อยากฝากถึงผู้ปกครองหรือญาติว่า หากน้องมีสติไม่ดี ให้นำน้องไปบำบัดรักษา เพราะเห็นแล้วก็รู้สึกสงสารเขา