จับตาเขยหื่น วัย 72 ปี ล่วงละเมิดหลานสาว 5 ขวบ หลักฐานคลิปในมือถือชัด สุดสะเทือนใจ เด็กเผย “ตาทำหนูแล้วให้เงิน 20 บาทไปซื้อขนม”

ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พา นางบี (นามสมมติ) อายุ 46 ปี เดินทางไปพบ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และ พ.ต.อ.สุรพจน์ รอดบำรุง รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา รักษาราชการแทน ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามคดีที่ลูกสาววัย 5 ขวบของบางบี ถูกตาเขย อายุ 72 ปี ล่วงละเมิด

นางปวีณา กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา นางบีได้ร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณาฯ ผ่านทางสายด่วน 1134 แจ้งว่ามีโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าเอาไว้ใช้งาน และบ่อยครั้งที่ลูกสาววัย 5 ขวบ จะนำโทรศัพท์ไปเล่น แม่ก็ไม่ได้คิดอะไร ทุกวันพ่อแม่ออกไปทำงานลูกก็จะอยู่กับญาติพี่น้อง และบางครั้งแม่ก็ฝากลูกไว้กับน้องสาวยายและสามี (ตาเขย) ซึ่งทั้งคู่เองก็เคยเลี้ยงนางบีมาตั้งแต่เด็ก

จนวันหนึ่ง ช่วงต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา แม่นำโทรศัพท์มาไล่ดูเพราะจะเปลี่ยนเครื่องใหม่ และยกเครื่องเก่าไว้ให้ลูกเล่น แม่ถึงกับช็อก! เพราะในคลังภาพพบว่ามีคลิปวิดีโอลูกสาว 2 คลิป ถูกบันทึกไว้เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 67 เป็นคลิปขณะที่ตาเขยกำลังล่วงละเมิดลูก แม่รับไม่ได้ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ จึงเล่าให้สามีฟัง แล้วตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะติดต่อมายังมูลนิธิปวีณาฯ ขอให้ช่วยติดตามคดี

หลังรับเรื่อง นางปวีณาได้ติดต่อประสานกับตำรวจ และมอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ เดินทางไปรับสองแม่ลูกไปพบ พ.ต.อ.สุรพจน์ ก่อนจะรับทั้งสองมาอยู่ในความคุ้มครองของมูลนิธิปวีณาฯ พาเด็กหญิงไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ และสอบสหวิชาชีพในวันที่ 8 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยเด็กหญิงให้การชัดเจนตามคลิปหลักฐานที่ปรากฏ และบอกอีกว่า “ตาทำหนูแล้วให้เงิน 20 บาทไปซื้อขนม”

ด้าน พล.ต.ต.โชติวัฒน์ กล่าวว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนเด็กร่วมกับสหวิชาชีพ ตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย และสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง ประกอบพยานหลักฐานซึ่งเป็นคลิปวิดีโอในมือถือ พบเห็นพฤติกรรมของผู้ต้องหาอย่างชัดเจน รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับตาเขยในข้อหา ‘กระทำอนาจารเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี’ พร้อมทำการจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก

นางปวีณา กล่าวขอบคุณ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ และ พ.ต.อ.สุรพจน์ ที่ทำงานช่วยเหลือดูแลบรรเทาความทุกข์ร้อนของประชาชน และจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ ขอฝากเตือนพ่อแม่ผู้ปกครองทุกท่าน หลายคนอาจต้องทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ควรจะปล่อยลูกให้ห่างไกลสายตา หรืออาจจะต้องคอยสังเกตความผิดปกติของลูก เพราะเด็กๆ ที่ถูกกระทำจะกลัวจนไม่กล้าบอกใคร เคสนี้แม่มาเห็นคลิปจากมือถือถึงจะรู้ความจริง

จากนี้ จะประสานกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับเงินเยียวยา และจะติดตามการช่วยเหลือดูแลสภาพจิตใจเด็กร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ต่อไป