ในการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 5/2567 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีวาระที่ถูกจับตา คือ วาระที่ 4 ที่ประชุมจะหยิบยกผลสรุปการสอบสวนของอนุกรรมการวินัยฯ ที่มีผลสรุปคำสั่ง ตร. ที่ 177-178/2567 เรื่องให้ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล’ รอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน พิจารณาว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งการประชุมมีผลต่อการกลับ หรือไม่ได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์
ล่าสุด พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงาน ก.ตร. ในฐานะเลขานุการ ก.ตร. กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้มาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีมีผู้ร้องขอให้ ก.ตร. พิจารณาเกี่ยวกับการปฏิบัติการบริหารงานบุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าดำเนินการเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในกฎหมายหรือไม่ ใน 2 คำสั่ง คือคำสั่ง ตร. ที่ 177 / 2567 ลงวันที่ 18 เม.ย. 67 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และคำสั่ง ตร. ที่ 178 / 2567 ลงวันที่ 18 เม.ย. 67 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน
ซึ่งทั้ง 2 กรณี ที่ประชุม ก.ตร. มีมติเห็นชอบตามอนุฯ ก.ตร. ที่อนุฯ ก.ตร. วินัย เสนอว่าการดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 กำหนดแล้ว
สำหรับกรณีที่การพิจารณายกเลิกหรือเพิกถอนคำสั่งนั้น ไม่อยู่ในอำนาจของ ก.ตร. แต่อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ที่ประชุมจึงมีมติพร้อมทั้งผู้ที่ร้องได้ใช้สิทธิ์ตามที่กฎหมายกำหนดต่อองค์กรดังกล่าวแล้ว จึงให้ผู้ร้องรอการพิจารณาของ ก.พ.ค.ตร. ต่อไป
สำหรับ ก.พ.ค.ตร. จะมีระยะเวลาพิจารณาตามที่กฎหมายกำหนดใน 120 วัน และขอขยายได้อีก 2 ครั้ง ขณะนี้อยู่ในระหว่าง 120 วันแรก เชื่อว่าน่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในกำหนด
“ที่ประชุมมีมติเห็นชอบและไม่มีผู้คัดค้าน โดยในที่ประชุม ก.ตร. มาประชุมทั้งหมด 13 ท่าน จาก 15 ท่าน มี 2 ท่าน ลาการประชุมและไปราชการ โดยอยู่ในการประชุมเพื่อพิจารณาลงมติ 12 ท่าน ซึ่งไม่มีผู้ใดคัดค้าน ที่ประชุมจึงถือว่าให้ความเห็นชอบต่อการประชุม การดำเนินการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเรื่องการบริหารงานบุคคลทั้ง 2 คำสั่ง ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดแล้ว” พล.ต.ท.อนุชา กล่าว
พล.ต.ท.อนุชา กล่าวถึงนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ นายกฯ ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของประธาน ก.ตร. และดำเนินการให้ที่ประชุมได้มีการอภิปรายอย่างครบถ้วน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยให้ยึดถือตามกฎหมายและระเบียบ ตั้งแต่รัฐธรรมนูญลงมาจนกระทั่งถึงกฎหมายระดับอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง
ส่วนเรื่องการเพิกถอนคำสั่ง คำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งทางปกครอง การเพิกถอนคำสั่งในชั้นของฝ่ายบริหารอยู่ในอำนาจของ ก.พ.ค.ตร. ในชั้นของตุลาการอยู่ในอำนาจของศาล
ทั้งนี้มีรายงานว่า ก่อนการประชุม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้เรียก รอง ผบ.ตร. ทุกคน มาพูดคุยกันนอกรอบที่ห้องรับรองคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ บริเวณชั้น 1 อาคาร 1 ตร. จากนั้นเวลา 15.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึง โดยก่อนเริ่มการประชุม นายกฯ ได้เรียก พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จตช. และ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง ก.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าพบที่ห้องรับรองพรหมนอก ต่อมา เวลา 17.45 น. นายกฯ เดินทางกลับ แจ้งว่าให้เลขานุการที่ประชุม ก.ตร. แถลงผลการประชุม โดยมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เดินลงมาส่ง และแจ้งว่าการประชุมยังไม่เสร็จ