สภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งเหตุเด็กทารกเสียชีวิตอยู่ในบ้านพักกลางสวนยางพาราใน ต.ท่ากุ่ม อ.เมือง จ.ตราด จึงประสานแพทย์เวร รพ.ตราด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราด รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นทารกเพศหญิง อายุ 1 เดือน 7 วัน มีน้ำนมเลอะเต็มหน้า ไหลออกมาจากปากและจมูก โดยมี นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 15 ปี พ่อและแม่ของเด็กยืนให้รายละเอียดกับเจ้าหน้าที่อยู่ แพทย์เวรชันสูตรไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย
สอบถามนายเอ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ให้นมลูก 1 ขวด (แบบมีจุก) หลังให้เสร็จก็เอาขวดนมออกและพากันนอนหลับ จนเวลา 02.00 น. แม่ของตนกลับมาบ้านแล้วเห็นว่าหลานนิ่งไป เลยปลุกตนและแฟนมาดู พบว่าลูกสาวได้เสียชีวิตแล้ว โดยมีน้ำนมไหลออกมาจากปากและจมูก
ตนอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับใครที่มีลูกเล็ก ให้ดูแลเขาให้ดีๆ อย่าให้คลาดสายตา เพราะเพียงเวลาแค่ไม่นานที่เราไม่ได้ดูลูกอาจจะทำให้เราเสียลูกไปตลอดกาลก็ได้
ด้านย่าของเด็กหญิง เผยว่า ตนกลับมาจากกรีดยางพารา เวลา 02.00 น. ได้เดินเข้าไปดูหลานตามปกติ แต่เห็นว่าหลานนิ่งไป ตัวเย็น และออกสีเหลืองแล้ว จึงปลุกลูกชาย ก่อนจะโทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้าน
เบื้องต้น ร.ต.ท.ภูริพัฒน์ เมษสุวรรณ ร้อยเวร สภ.เมืองตราด ได้บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะมอบร่างเด็กให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่วัดแห่งหนึ่งใน ต.ท่ากุ่ม อ.เมือง จ.ตราด ทราบว่าครอบครัวของเด็กหญิงไม่มีกำลังทรัพย์พอที่จะจัดงานศพ จึงให้ทางวัดประกอบพิธีทางสงฆ์ และฌาปนกิจในวันเดียวกันเลย
สัปเหร่อ เปิดเผยว่า ทางครอบครัวให้ทำพิธีฌาปนกิจให้เสร็จในวันนี้เพราะไม่มีเงิน และเป็นความเชื่อของครอบครัว ซึ่งจากที่พ่อแม่ของเด็กหญิงเล่า บอกว่าเด็กหญิงนอนสำลักน้ำนม ทำให้ขาดอากาศหายใจ
ที่มา : ch 3