จากกรณีผู้ใช้เฟชบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพแมวนับสิบตัวอยู่ในถุงกระสอบ โดยผู้โพสต์ระบุว่า "มีแมวต้องการความช่วยเหลือ ด่วนมาก เจ้าของทิ้งน้องไว้ในบ้าน 21 ตัว มีแห้งตายในบ้านด้วย ตอนนี้รอด18 ชีวิต เบื้องต้น เอากรงที่บ้านไปใส่น้องไว้แล้ว มีพี่ใจดีให้วางกรงข้างๆ มุมบ้านได้ มีพี่อาสาตักขี้ให้ ปศุสัตว์ไทรน้อย ฉีดวิตามิน+ถ่ายพยาธิให้น้อง วางแผนทำหมันต่อไป หลังทำหมันพักฟื้นดี จะหาบ้านต่อไป
ต่อมา ทีมข่าวลงพื้นที่ ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พบแมวอยู่ในกรงข้างบ้าน 18 ตัว แต่ละตัวมีสภาพอินโรยและป่วย นางสาวบี (นามสมมติ) ชาวบ้านที่เข้าไปช่วยเหลือแมว 18 ชีวิตออกจากกระสอบ บอกกับทีมข่าวว่า เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 2 ก.ค. ช่วงเที่ยง มีเพื่อนบ้านคนหนึ่งเดินมาถามตนว่า อยากได้แมวไหม มีแมวอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ให้ลองเดินไปดู พอเดินไปก็พบว่าบ้านหลังดังกล่าวกำลังเก็บกวาดขยะ เพราะผู้เช่าหนีออกจากบ้านไป
ได้ยินเสียงแมวร้องอยู่ในถุงปุ๋ยสีขาว ที่ถูกมัดปิดปากถุงเอาไว้ และเห็นว่าแดดร้อนจัด จึงรีบเอาถุงปุ๋ยไปแกะ เจอแมวในถุง 18 ตัว ตัวผู้ 13 ตัว ตัวเมีย 5 ตัว สภาพอิดโรย ผอมโซ บางตัวเดินไม่ไหว จึงได้โพสต์ขอความช่วยเหลือ เพราะสงสารแมว และมีกลุ่มข่าวนนทบุรีถึงนนทบุรี เข้ามาช่วยเหลือ แต่ตนเองไม่อยากพูดถึงเจ้าของบ้านที่นำแมวใส่กระสอบ เพราะกลัวมีปัญหากัน ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือช่วยชีวิตแมว 18 ชีวิต ตอนนี้ตนได้แบ่งพื้นที่ข้างบ้าน ให้แมวทั้ง 18 ชีวิตอาศัยอยู่ ซึ่งก็จะสามารถให้พักอาศัยได้เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น เพราะที่บ้านหลังนี้ตนก็เช่าอยู่และเจ้าของบ้านไม่ให้เลี้ยงสัตว์
ตอนที่ทีมข่าวลงพื้นที่ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่แอดมินกลุ่มข่าวนนทบุรีถึงชาวนนทบุรี ได้นำข้าวของ ทรายแมว อาหารแมว ที่มีคนบริจาคเข้ามาในกลุ่ม มามอบให้กับนางสาวบี และพลเมืองดีที่มาช่วยเหลือแมว 18 ตัว เท่าที่ทราบข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่ามีแมวตายอยู่ในบ้าน 3 ตัว รอดชีวิต 18 ตัว ซึ่งตัวที่รอดชีวิตอยู่ในถุงกระสอบสีขาว ถูกมัดปากถุง ถ้านางสาวบีไม่รีบช่วยเหลือแมวก็จะตายทั้งหมดแน่ๆ ตนรู้สึกว่าอยากบอกคนที่ทำกับแมวว่า ถ้าจะไม่เลี้ยง น่าจะมีวิธีการที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่นำใส่ถุงกระสอบมัดปาก เหมือนจะเอาไปโยนทิ้งให้ตาย